Life Cycle เดิมๆ ทำงาน กลับบ้าน นอน

เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นกับสิ่งที่ต้องแลกนั้นคือ..เรื่องสุขภาพ และครอบครัว การใช้ชีวิต ผมเชื่อว่า 80% ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว life cycle เดิมๆ ทำงาน กลับบ้าน นอน (ผลตรวจสุขภาพไม่ต้องพูดถึง เกินมาตรฐานเพียบ ความดัน ไขมัน เบาหวาน ตับ และอื่นๆ)

สุดท้าย..ก็เอาเงินไปรักษาตัวเอง เยียวยาตัวเอง ชดเชยตัวเองในสิ่งที่ขาดมัน ในที่สุดทั้งหมดแล้ว..ก็ไม่มีเวลาใช้มัน นั่นคือโปรแกรมเมอร์ไม่เก่ง ..เก่งแต่ไปสั่งคอมพิวเตอร์ แต่ไม่เก่งเรื่องไปโปรแกรมมิ่งชีวิตตัวเอง

นี่แหละครับปัญหาของ programmer ที่เก่งๆส่วนใหญ่เจอ..

แล้วต้องทำอย่างไร เก่งงาน ต้องเก่งใช้ชีวิตด้วย แล้วต้องทำอย่างไร..

เก่งงาน

คำว่าเก่งงานในที่นี้จะยกตัวอย่างสายอาชีพโปรแกรมเมอร์

มีพื้นฐานที่ดีครับ

• OOP
• ALGORITHM
• DESIGN PATTERN
• SYSTEM ARCHITECTURE
• SOFTWARE PROCESS (Personal-Team)
• HUMAN INTERACTION (คิดถึงการใช้งานจริง ไม่สักแต่ทำ)
• และภาษา อังกฤษ

พื้นฐานเหล่านี้จะทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถคิดวิเคราะห์และทำงานได้อย่างเป็นระบบระเบียบมีมาตรฐาน เช่น

1. Code ทำงานตามที่userต้องการ

2. Code อ่านง่าย

3. ค่า Big Oต่ำๆ

4.มี User documentation ที่อธิบายวิธีการใช้ App ที่ชัดเจนและ App ง่ายต่อการใช้งาน

5. หากเป็น App ML ตัว MLจะต้องมีคะแนนTesting Data ที่น่าเชื่อถือและมันไม่ควรสร้างข้อมูล Prediction ที่มี Bias

6. งานเสร็จตามเวลา

7. App ง่ายต่อการนำมาต่อยอด (เช่น ตั้ง GitIgnore file ตรงกับความเหมาะสมของงาน, programmer ตั้งกฏการเขียน Program style เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการร่วมมือ ฯลฯ)

เขียนงานที่ logic ซับซ้อนมากๆได้ เขียนใช้เวลาไม่นาน ได้โค้ดขนาดเล็กทำงานเร็ว secure ไม่มี bug

เก่งใช้ชีวิต

วนกลับมาเรื่องสุขภาพ วินัยเท่านั้น...