Passive income อัตโนมัติ

การทำเงินอัตโนมัติที่หลายๆคนฝันถึง...

(1) คำว่า Passive income จะทำให้คุณอยากได้เงิน จากสิ่งที่คุณไม่อยากทำ

.

ทุกวันนี้มีคนมากมายที่ไม่ได้สนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์ แต่กลับซื้อมันเพราะคิดว่า ถ้ามีคนเช่าแล้วจะได้เงินเข้ากระเป๋าโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

.

ทุกวันนี้มีคนมากมายที่ไม่ได้หลงไหลในตลาดหุ้น แต่จู่ๆ ก็มานั่งจ้องกระดานเทรด ด้วยความหวังว่าจะได้เงินก้อนโตจากมัน

.

และ ทุกวันนี้ ก็มีคนอีกนับไม่ถ้วน ที่ไม่เคยแม้แต่จะทานอาหารเสริม แต่สุดท้ายก็เห็นมานั่งฟังสัมมนาล้างสมองของธุรกิจเครือข่าย เพราะโดนแม่ข่ายขายฝันว่า ทำแล้ว จะมีเบนซ์ขับ ได้บ้านหลังใหญ่ แถมยังเที่ยวต่างประเทศได้ทั้งปี

.

จะเห็นว่า คนส่วนใหญ่หลงเข้าไปทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบ เพียงเพราะภาพลวงหลอกว่ามันจะทำให้คุณได้เงินโดยไม่ต้องออกแรง 

.

แต่สุดท้าย คนเหล่านั้นก็มักจะไส้แห้ง หรือ อาจจะถึงขั้นร้ายแรงจนกลายเป็นหนี้เป็นสินติดตัวไปจนแก่เลยก็มี


(2) คำว่า Passive income จะไปกระตุ้นสมองส่วนที่โง่ที่สุด

.

สมองส่วนนี้เรียกว่า เรปทิเลียน ซึ่งเป็นสมองส่วนที่มักอยากได้อะไรมาง่ายๆ และ เป็นสมองส่วนที่เป็นสัญชาตญานดิบของมนุษย์ซึ่งไม่สามารถคิดแบบซับซ้อนได้ 

.

มันคิดไม่ออกหรอกว่า จากสถิติแล้วคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายนั้น มีแค่ 0.4% ซึ่งน้อยกว่าการพนันที่มีอัตราความสำเร็จที่ 2.9% เสียอีก

.

มันคิดไม่ออกหรอกว่า การนอนอยู่บ้านเฉยๆ แล้วมีเงินแบบ Passive Income จากร้านสะดวกซักมาเลี้ยงชีวิตอย่างสะดวกสบายนั้น เป็นเพียงคำพูดของเซลล์ขายแฟรนไชส์ 

.

เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมเซลล์ที่ขายแฟรนไชส์ถึงไปไม่เปิดร้านเองละ จะมาเดินตากแดดร้อนๆ เพื่อง้อให้คุณซื้อแฟรนไชส์ให้เหนื่อยทำไม 

.

จะเห็นว่าบางครั้ง ความอยากได้อยากมีรายได้แบบ Passive income ก็สะท้อนถึงความต้องการแบบฉาบฉวย ของพวกที่ต้องการมีเงินใช้และสนุกกับการใช้ชีวิต แต่ไม่ต้องการรับผิดชอบด้านการเงิน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้

.

เมื่อคุณโดนกระตุ้นสมองส่วนนี้ จนหลงเชื่อทำในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพียงเพราะอยากได้มันมาง่ายๆ 

.

สุดท้าย คำว่า Passive income ก็เป็นได้แค่ความฝัน ว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป


(3) มันไม่อัตโนมัติ

.

ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่า Passive income คือ การมีทรัพย์สินที่ทำเงินอัตโนมัติราวกับเครื่องจักรผลิตเงินสด แต่เมื่อทำมาถึงจุดนั้น สิ่งที่ผม และ เชื่อว่าอีกหลายคนค้นพบ ก็คือ มันไม่ได้อัตโนมัติ 100%

.

เพราะทรัพย์สินทุกชนิดล้วนต้องปรับปรุง ดูแล และ เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา

.

คนทำอสังหาฯ อาจจะต้องปวดหัวกับผู้เช่า ทั้งการทวงเงิน พฤติกรรมของผู้เช่า ข้าวของเสียหาย และ ต้องรีโนเวท เมื่อมันเสื่อมถอย

.

คนทำเว็บไซต์ ก็ต้องอัพเกรด พัฒนา ปรังปรุง มันอยู่ตลอดเวลา

.

หรือ แม้แต่ผมที่เป็นเจ้าของผลงานหนังสือ หรือ คอร์สออนไลน์ ก็พบว่า มันยังต้องทำการตลาด โปรโมต และ ออกมาขาย มันอยู่ตลอด 

.

ที่สำคัญ คือ ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไว ผ่านไปแค่ 1-2 ปี หนังสือ หรือ คอร์สออนไลน์นั้น ก็อาจจะใช้ไม่ได้แล้ว 

.

สุดท้ายก็ต้องเขียนเล่มใหม่ หรือ ทำคอร์สใหม่อยู่ดี 

.

สุดท้าย คุณจะเห็นว่าไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่ต้องทำอะไรจริงๆ หรอก 

.

อย่างตัวผมเอง ก็ต้องใช้เวลาเขียนหนังสือ 6 เดือน เพื่อรับเงินค่าลิขสิทธิ์ไปอีก 2 ปี 

.

ต้องใช้เวลาทำคอร์สออนไลน์ 2 เดือน เพื่อขายทำกำไรได้สูงสุดก็ประมาณ 2 ปี 

.

ต้องใช้เวลาทำคลิปลง Youtube ที่ต้องใช้เวลาทั้งวัน เพื่อรับค่าโฆษณาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างมากก็แค่ 2 เดือน

.

แม้แต่คนที่ลงทุนในหุ้น ก็ต้องใช้เวลาทำงาน เก็บออม ศึกษา เรียนรู้ ลงทุน แล้วรอให้มันเติบโตจนสามารถปันผลได้

.

จะเห็นว่า Passive income เป็นเพียงการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งก็เท่านั้น

.

มันเหมือนกับการที่นายจ้างขอให้พนักงานทำงานอยู่ 1 ปี แล้วค่อยรับค่าตอบแทนไปอีก 5 ปี ก็เท่านั้น

.

คนส่วนใหญ่ที่ท่องเที่ยวต่างประเทศปีละหลายครั้ง แล้วโพสต์ประกาศลงเฟซบุ๊กว่าตัวเองมี Passive income ด้วยรูปนั่งแอคท่าอยู่บนเครื่องบินชั้น First class ล้วนยังคงต้องกลับไปทำงานเพื่อปรับปรุงดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ เจ้าสัว หรือ บุคคลที่รวยที่สุดในโลก ก็ตาม


สรุป คือ อย่าหลงเข้าไปทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้อยากทำ เพียงเพราะมีป้ายโฆษณาเขียนว่า งานนี้เป็น Passive income 

.

แต่ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และ หลงไหล มัน จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนมันให้เป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้แบบ Passive income ให้กับคุณ

.

ยกตัวอย่างเช่น พ่อค้าขายไก่ทอดหาดใหญ่คนหนึ่ง ที่เปลี่ยนสูตรไก่ทอดของตัวเอง ให้เป็นสินค้าแป้งหมักไก่ทอดสำเร็จรูป แล้วนำไปวางขายตามร้านสะดวกซื้อ ทำให้เขามีรายได้เข้ากระเป๋า โดยไม่ต้องตื่นตี 5 เพื่อเตรียมของแล้วออกไปเปิดร้านตากแดดทอดไก่ขายด้วยตัวเองอีกต่อไป

.

นอกจากนี้เขายังต่อยอดโดยการเปิดคอร์สออนไลน์สอนวิธีทอดไก่ และ นึ่งข้าวเหนียวให้หอมนุ่มอร่อย 

.

แถมยังนำประสบการณ์เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินทุน 5,000 บาท จนประสบความสำเร็จหลักล้าน ไปเขียนลงหนังสือแล้วกระจายขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ 

.

อีกทั้งยังอัพวิดีโอลง Youtube และ โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง กลายเป็น content creator ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน

.

จากร้านขายไก่ทอดหาดใหญ่ธรรมดา ก็กลายเป็นแหล่งรายได้ แบบ Passive income อีกหลายช่องทาง

.

จะเห็นว่า การที่พ่อค้าคนนี้มีรายได้แบบ Passive income ได้นั้น เขาไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบเพียงเพราะมีคนบอกว่ามันทำให้เขาได้เงินโดยไม่ต้องทำงาน

.

จะเห็นว่า การที่พ่อค้าคนนี้มีรายได้แบบ Passive income ได้นั้น เขาไม่ได้หวังว่ามันจะได้มาง่ายๆ โดยไม่ต้องออกแรง แต่เกิดจากการการคิด การสร้างสรรค์ และ การทำงานหนัก

.

และ สุดท้าย คือ คุณจะเห็นว่า รายได้แบบ Passive income ของพ่อค้าคนนี้นั้น ไม่ได้เป็นอัตโนมัติ 100% เพราะเขายังคงต้องดูแลการผลิต การเงิน การขาย พนักงาน รวมถึงทุกอย่างในธุรกิจของเขา

.

เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังฝันหวาน ว่าตัวเองจะนอนโง่ๆ กระติกหัวแม่เท้า พร้อมกับจิบน้ำมะพร้าวอยู่ริมชายหาดที่มัลดีฟ

.

ผมอยากจะบอกคุณว่า ….

.

ตื่นครับ!

0
72