เตรียมพร้อมก่อนตรวจ รู้จัก MRI คืออะไร ต่างจากการตรวจ CT Scan อย่างไร ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมีทั้งค่ารักษาพยาบาล และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันความเจ็บป่วย แต่ละรายจ่ายนั้นมีรายละเอียดที่สอดคล้องกับโรคที่พบ มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้อุปกรณ์หน้าตาคล้ายกัน อย่างเครื่อง MRI และ CT Scan หากคุณต้องเข้ารับการรักษาด้วยสองวิธีนี้ มาดูความแตกต่างก่อนเข้ารับการตรวจ
MRI คือ กระบวนการตรวจสอบความผิดปกติของอวัยวะในร่างกายด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อแปลผลแสดงภาพให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ละเอียดขึ้น โดยสามารถตรวจได้ง่ายโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนท่าผู้ป่วย แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องปฏิบัติ
MRI (Magnetic Resonance Imaging) เป็นหลักการสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคของผู้ป่วย โดยอาศัยคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กของอะตอมไฮโดรเจน ที่มีอยู่ในน้ำอันส่วนประกอบหลักของร่างกายมนุษย์ เมื่ออุปกรณ์กระตุ้นด้วยการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุความถี่จำเพาะลงบนอวัยวะนั้น แล้วอ่านค่าแปลผลเป็นภาพ เห็นความผิดปกติของเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ง่าย
ประโยชน์ของการทำ MRI ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์การทำงานอวัยวะของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น เห็นภาพทางกายภาพของร่างกายคนไข้ โดยที่คนไข้ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพลิกท่า ช่วยให้แพทย์วิเคราะห์การรักษาได้แม่นยำมากขึ้น แต่จะมีข้อควรระวังในผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์โลหะในร่างกาย เพราะคลื่นความถี่จะสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบนโลหะเกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมา ข้อจำกัดของการทำ MRI คือไม่สามารถเห็นภาพรวมในการตรวจครั้งเดียว จะต้องได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์
ข้อจำกัดของการทำ MRI
ก่อนเข้ารับการตรวจ MRI ผู้ป่วยต้องเข้าใจหลักการทำงานของ MRI เพื่อจะได้ไม่ตื่นเต้นเวลาเข้าไปอยู่ในเครื่อง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะเจ้าหน้าที่จะอยู่ในห้องกับคุณ พร้อมแจ้งการเตรียมตัว และขั้นตอนการตรวจอีกครั้ง ก่อนเข้าเครื่อง MRI ควรเตรียมตัวดังนี้
เครื่องมือการตรวจ MRI คล้ายกับ CT Scan แตกต่างกันตรงที่ CT Scan ใช้รังสี และใช้ระยะเวลาน้อยกว่า แต่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของการตรวจ MRI จะทำให้เห็นรายละเอียดของการทำงานในระดับเนื้อเยื่ออ่อนๆ ได้มากกว่า จึงใช้วิเคราะห์ความผิดปกติของอาการที่เรื้อรัง เพื่อพิจารณาแก้ไขระบบที่เกิดโรค
CT Scan นำมาใช้เป็นทางเลือกแรกๆ ในกรณีที่แพทย์พบอาการที่บ่งบอกภาวะกะโหลกร้าว เลือดไหลในสมอง หมดสติ ประสบอุบัติเหตุ หรือมีอาการชัก, ปวดหัวรุนแรง, อาเจียน, ตาดำข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่ง, มีปัญหาการพูด ได้ยิน และการกลืน, มีของเหลวหรือเลือดออกมาจากหูและจมูก, กล้ามเนื้อใบหน้าหรือร่างกายอ่อนแรงข้างหนึ่ง หากมีอาการเหล่านี้แพทย์มักเลือกใช้ CT Scan วินิจฉัยก่อน MRI
MRI ใช้ตรวจสอบระบบสมองขาดเลือด ระบบหัวใจ ในระดับเนื้อเยื่อได้ละเอียดกว่า และมีประโยชน์ต่อการตรวจผู้ป่วยเด็ก เนื่องจากไม่มีอันตรายที่เกิดจากการใช้รังสีเอกซเรย์
ปัจจุบันมีเครื่อง MRI ตามโรงพยาบาลต่างๆ และจากสถานพยาบาลเอกชนให้บริการ ตัวอย่างราคาการทำ MRI ส่วนต่างๆ ของร่างกาย มีดังนี้
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ (ราคาอัพเดท 24 ก.พ. 2564)
ประชาชื่น MRI (ราคาอัปเดต 24 ก.พ. 2564)
การตรวจ MRI นอกจากช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคแล้ว ยังมีผลต่อการวางแผนดูแลสุขภาพของตัวเอง ถือเป็นการตรวจสุขภาพร่างกายอย่างหนึ่งเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลง ป้องกันความเสี่ยงเกิดโรค แต่เนื่องจากการตรวจ MRI แต่ละส่วนมีค่าใช้จ่าย จึงควรศึกษาความจำเป็น และควรได้รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ประกอบด้วย