นอนกรน เป็นความผิดปกติที่ต้องรักษา‼️

“เสียงกรน” ของคนในบ้านดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทนกันจนเคยชิน แต่จริงๆ แล้วการนอนกรนเป็นความผิดปกติที่จำเป็นต้องรักษาค่ะ เพราะหากปล่อยไว้อาจนำมาซึ่งปัญหาทางสุขภาพที่อันตราย โดยเฉพาะหากเกิด “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” ซึ่งจะมีอาการที่สังเกตได้ดังต่อไปนี้:

❗ เสียงกรนสะดุดเป็นช่วงๆ ไม่สม่ำเสมอ เสียงกรนเงียบไปแล้วกลับมาหายใจเฮือกอีกครั้ง

❗ ตื่นมาไม่สดชื่น อ่อนเพลีย เหมือนคนอดนอนทั้งที่นอนเต็มที่ตลอดทั้งคืน

❗ ความจำสั้น ไม่มีสมาธิ หงุดหงิดง่าย การตัดสินใจไม่มีประสิทธิภาพ ง่วงในเวลากลางวัน

หากร่างกายเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากกว่า 5 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ก็จะส่งผลให้ออกซิเจนในกระแสเลือดลดต่ำลง หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ไม่เพียงพอ สมองจะมีการตรวจจับระดับออกซิเจนและสั่งการกระตุ้นให้ตื่นตัว เพื่อให้หายใจรับออกซิเจน ทำให้คนนอนกรนมีช่วงการหลับลึกสั้น เป็นการหลับระยะตื้นๆ อยู่ตลอด 

⁉️หากปล่อยไว้นาน นอกมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง แล้วหากมีอาการหยุดหายใจมากกว่า 5 ครั้งใน 1 ชั่วโมง จะส่งผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ เสี่ยงต่อโรค :

🌡 โรคความดันโลหิตสูง

❤️ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

🧠 โรคหลอดเลือดสมอง 

🤦‍♂️ โรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์

😴 ง่วงนอนผิดปกติช่วงกลางวัน

ด้วยเหตุนี้ การนอนกรนจึงเป็นความผิดปกติที่ต้องรักษา เพราะนำมาซึ่งปัญหาทางสุขภาพที่อันตรายถึงชีวิต โดยในทางการแพทย์แล้วการนอนกรนสามารถรักษาได้ และช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพและกลับมาเป็นปกติได้ ด้วยการบำบัดรักษาด้วยแนวทางต่างๆ ดังเช่น

🌟 นอนให้ระดับศีรษะสูงกว่าลำตัว เลี่ยงการนอนหงาย ปรับเป็นนอนท่าตะแคง ซึ่งจะช่วยลดอาการลงได้

🌟 ตรวจคุณภาพการนอนหลับด้วยการทำ Sleep Lap เพื่อให้ทราบว่ารุนแรงระดับไหน สาเหตุจากอะไร ควรใช้วิธีใดรักษา

🌟 กรณีที่ทางเดินหายใจตีบแคบ จะมีการใช้เครื่องมือช่วย เช่น CPAP และ BiPAP เพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจให้โล่งขณะนอนหลับ

🌟 ในกรณีที่มีสาเหตุหลักจากโครงสร้างทางเดินหายใจ อาจใช้วิธีผ่าตัดหรือรักษาด้วยเทคนิคกระตุ้นกล้ามเนื้อ

🌟 วางแผนลดความอ้วน เนื่องจากไขมันจะเบียดช่องทางเดินหายใจให้ตีบแคบลงได้ จึงควรควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับมาตรฐาน ด้วยการควบคุมแคลอรี่ในมื้ออาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

เห็นไหมครับว่าอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับในปัจจุบันมีวิธีการรักษาได้อย่างหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องทนทรมานกับการสำลักลมหายใจตื่นทุกคืน ซึ่งหากร่างกายและสมองได้รับออกซิเจนเพียงพอ ก็จะช่วยให้สดชื่นเต็มตื่น พร้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดเสี่ยงโรคเรื้อรังและดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ