เศรษฐกิจแต่ละช่วงเวลาควรลงทุนอะไร?

ในช่วงที่ผ่านมาเราอาจสังเกตเห็นถึงความแตกต่างของผลตอบแทนการลงทุนสินทรัพย์แต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน เช่น ราคาของตราสารหนี้ ตราสารทุน ทั้งในและต่างประเทศที่มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในทิศทางที่ดี

ซึ่งนี้ทำให้เราเห็นว่าใน แต่ละช่วงเวลาจะมีสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันออกไป ตาม ‘วัฏจักรของเศรษฐกิจ’ ที่โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 4 ระยะ ได้แก่ 

1. ช่วงเศรษฐกิจอ่อนแอ คือ ช่วงเวลาที่พึ่งจะผ่านพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ  ภาพรวมของเศรษฐกิจ – ราคาสินค้าและบริการอยู่ในระดับต่ำตามราคาต้นทุน สถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มลดลง การปรับประมาณการของบริษัทจดทะเบียนเริ่มปรับเพิ่มขึ้นบางส่วน นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น มีแนวโน้มที่อาจปรับลดดอกเบี้ยได้ สินทรัพย์น่าลงทุน – ตราสารหนี้, และหุ้นเติบโต 

2. ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว – ช่วงเวลาผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาพรวมของเศรษฐกิจ – ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนเริ่มมีการปรับประมาณการดีขึ้นเป็นระยะ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและครัวเรือนกลับมาแข็งแกร่ง สถานการณ์เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นสินทรัพย์น่าลงทุน – หุ้นเติบโต, หุ้นวัฏจักร 

3. ช่วงเศรษฐกิจร้อนแรง – ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ ภาพรวมของเศรษฐกิจ – ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนเริ่มมีการปรับประมาณการลดลง ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวอยู่ในระดับสูงและเริ่มคงที่ เริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางนโยบายทางการเงินจากผ่อนคลายเป็นรัดกุมมากขึ้น นักลงทุนเริ่มมีความกังวลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อที่อยู่ระดับสูง สินทรัพย์น่าลงทุน – หุ้นมูลค่าถูก, หุ้นวัฏจักร และสินค้าโภคภัณฑ์จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลานี้ 

4. ช่วงเศรษฐกิจถดถอย – ช่วงเวลาที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ ภาพรวมของเศรษฐกิจ – ตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวเริ่มชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับต่ำ สถานการณ์เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง นโยบายทางการเงินมีความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้น่าสนใจมากขึ้น สินทรัพย์น่าลงทุน – เงินสด ,หุ้น Defensive เช่น หุ้นโรงพยาบาล, หุ้นสินค้าจำเป็น, หุ้นคุณภาพ  

วัฏจักรเศรษฐกิจถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อกระจายการลงทุนและปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจ แต่การจะติดตามให้ได้อย่างทันท่วงทีอาจเป็นการยาก หรือไม่สะดวกสำหรับนักลงทุนหลายท่าน