ข้อคิดจาก Freelance
พอดีไปอ่านเจอบทความนึง ขอโน๊ตไว้เป็นแนวทางหน่อย มีหลายอย่างที่ให้ข้อคิดดีมาก..
ข้อคิดดีๆ จากพี่ Freelance เงินล้าน
...
1 โฟกัสงานลูกค้าทุกอัน ไปไหนเอางานไปด้วย ดูให้ละเอียด ตั้งใจทำให้ออกมาดีที่สุด ใส่ใจทุกรายละเอียด มองโจทย์ให้แตกที่สุด ท่องไว้ว่า แม้ขนาดไปร้านอาหารยังต้องหอบแฟ้มงานไปด้วย เปิดดูบ่อยๆ
...
2 อย่าทำงานที่ยากเกินความสามารถของตัวเอง จริงอยู่ งานยากมันท้าทายเรา บางงานได้เงินดีด้วย แต่การไปทำสิ่งที่ยากเกินสกิลของตัวเอง ณ เวลานั้นมันจะทำให้เราเครียดเกินไป เจอแบบนี้ควรปฏิเสธก่อน หรือหาคนที่ทำได้จริงๆ ให้เขามารับต่ออีกที
...
3 อย่าเก่งคนเดียว เราควรมีพวกพ้อง คอนเนคชั่นเยอะๆ บางงานเราทำไม่ได้ก็ต้องอาศัยคนอื่น หรือบางงานมันเยอะ สโคปใหญ่การหาคนช่วยแล้วแบ่งเงินกัน เพื่อให้ปิดงานสเกลขนาดนั้นตามกรอบเวลา จะดีกว่าฉายเดี่ยวแล้วโดนปรับ
...
4 บริหารเวลาให้ได้ ต้องพักผ่อนเอาสุขภาพตัวเองด้วย เพราะถ้าเราป่วยแต่ละทีมันคือการเสียโอกาสทีจะสร้างรายได้ หลายบาท บางโรคป่วยเรื้อรังไม่หายขาดอีกนะ (อย่างผมเองก็เคยเป็น ป่วยประมาณปีกว่า ตอนนี้หายขาดมา 4-5 เดือนละ)
...
5 อย่าไปลงทุนในสิ่งที่มันไม่ส่งผลอะไรกับงาน เช่น เอาเงินไปจ่ายกับรถแพงๆ สูทตัวแพงๆ นาฬิกา หรืออะไรที่มันไม่ได้ส่งผลเลย เพราะวงการนี้เขามองกันที่สมอง ปากต่อปาก บางคนใส่เสื้อยืดตัวไม่เท่าไหร่แต่พอทำงานจริง คนละเรื่อง กับบางคนแต่งซะหล่อเฟี้ยว พอลงงาน อ้าวหนังคนละม้วนก็มี (แต่ว่าเรื่องนี้ผมเห็นต่างนิดนึงนะ ของบางอย่างมันความอยากได้ล้วนๆ ฮ่าๆๆๆ)
...
6 ในช่วงเริ่มต้นอย่าเลือกงานมาก
ตอนที่เพิ่งเริ่มทำวงการนี้แรกๆ งานอะไรมาควรรับไว้ก่อน แต่ต้องทำได้ด้วยนะ ไม่ใช่รับมาแต่ดันทำไม่เป็นแบบนั้นไม่ไหว เพื่อเป็นการสะสมพอท และสร้างคอนเนคชั่นเรากับลูกค้าไว้ เดี๋ยวเขาปากต่อปากเอง
...
7 เมื่อเก่งแล้ว ควรเริ่มเลือกงาน
พอเริ่มมีชื่อระดับนึง ทีนี้ควรเลือกงานละ อันไหนที่มองว่าไม่คุ้มไม่น่าทำ เดี๋ยวเสียโอกาส ก็ต้องปฏิเสธไป เพราะจำไว้ว่าคนสำเร็จเขาไม่ได้ทำงานเยอะนะ แต่เขาทำงานที่คุ้มค่าเวลาของเขาเท่านั้น
...
8 วางตัวให้ดีทั้งในโลกจริง และโลกโซเชียล
เรื่องนี้สำคัญนะ บางคนฝีมือดีแหละแต่ปากแจ๋ว ลูกค้าเขาอาจจะไม่ชอบถึงจะบอกว่าแล้วไงอะ งานเสร็จไหม ก็จริงอยู่ เรื่องนี้มีผลมากจริงๆ ครับ ผมก็เคยว่าจ้างเหมือนกัน แต่ไปพบว่าในโซเชียลเป็นคนสายนักเลงคียร์บอร์ด ผมนี่กลับลำอย่างไวเลย
...
9 ประเมินราคาให้ขาด
บางงานที่เรามองว่าแค่นี้พอแล้ว แต่เอาจริงๆ ทำมาทำไปมันเข้าเนื้อได้ ดังนั้นเรื่องของราคาต้องเผื่อให้หมด ทั้งภาษี ทั้งกำไร ต้นทุนที่ตัวเองต้องแบกระหว่างทำ การเดินทางไปพบลูกค้า อะไรต่างๆ ตีให้มีกำไรไว้เสมอ อย่าลืมช่วงไม่มีงานด้วยนะ เอาไหนกินข้าวถ้าเราไม่เผื่อเงินสำรองไว้บ้าง
...
10 รู้เรื่องกฏหมาย หรือมีทนายคู่ใจไว้ด้วย
อันนี้สำคัญทุกการเซ็นสัญญาว่าจ้าง ควรเอาไปให้ทนายช่วยดู มีค่าปรึกษา 2000-5000 ไม่แพงหรอกครับ เทียบกับงานที่เราจะทำ บางคนใช้บริการกันบ่อยๆ สนิทแล้วเขาให้ราคาพวกกันได้อีกนะ (ที่เคยเจอ ราคาพวกกันเนี่ยแพงกว่าราคาคนทั่วไปเฉย อิหยังวะ)
...
สรุป
นอกจากเราเป็นฟรีแลนซ์ ก็อย่าลืมอัพเดตพัฒนาสกิลตัวเองไว้เสมอด้วย เพราะยิ่งรู้เยอะ โอกาสที่จะได้งานดีๆ หรืองาน value สูง มันก็จะมีมากขึ้นตามด้วยครับ เส้นทางนี้ รวยได้แน่ๆ แต่ต้องไม่ลืมที่จะ Work Live Balance ด้วยนะ สุขภาพถ้าพังมาอาจจะต้องใช้เงินที่หาทั้งชีวิตมาซ่อมมัน